Thursday, December 5, 2013

WHY POLIO?

ทำไมเลือกโปลิโอ ?
โดย ปีเตอร์ รอส เรนจ์
จอห์น เซฟเวอร์ นักวิทยาศาสตร์โรแทเรียนที่เปิดฉากนำโรตารีเข้าสมรภูมิโปลิโอ
เรื่องนี้เริ่มเกิดขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ.2522 คุณเคลม เรนูฟ ประธานโรตารีสากลในขณะนั้นกำลังพลิกอ่านนิตยสารเดอะรีดเดอร์ไดเจสท์บนเครื่องบินขากลับจากฟิลิปปินส์  ในหน้านิตยสารฉบับนั้นเขาอ่านพบเรื่องเกี่ยวกับการขจัดโรคไข้ทรพิษ (ฝีดาษ)ให้หมดไปจากโลกโดยใช้ต้นทุนทั้งสิ้นเพียงเท่ากับค่าสร้างเรือรบออสเตรเลีย 2 ลำ ซึ่งเป็นข่าวที่เขาอ่านพบวันก่อนหน้านี้เท่านั้น เขาเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจในการทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการในการจัดทำโครงการแรกภายใต้การให้ทุนของมูลนิธิโรตารีในโปรแกรม 3 เอชอันได้แก่ สุขภาพ ความหิวโหย และมนุษยชาติ ตอนนี้เรนูฟมีความสงสัยว่าทุนของมูลนิธิจะสามารถนำไปใช้ได้ไกลถึงโครงการสักโครงการหนึ่งที่จะขจัดโรคอีกโรคหนึ่งให้หมดไปจากโลกได้หรือไม่
เขาโทรหาเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อจอห์น เซฟเวอร์
เซฟเวอร์ เป็นผู้ว่าการภาคในนครวอชิงตัน ดีซี และยังเป็นหัวหน้าสาขาโรคติดต่อแห่งสถาบันประสาทวิทยาและฝ่ายโรคติดต่อและอัมพาต สถาบันอนามัยแห่งชาติ เขาพบกับเรนูฟเมื่อหกเดือนก่อนซึ่งเป็นช่วงที่เซฟเวอร์ขอให้ประธานโรตารีสากลมาพูดที่กระทรวงการต่างประเทศก่อนที่จะเดินทางอย่างเป็นทางการในฐานะประธานโรตารีสากลครั้งแรกสู่ทวีปอัฟริกาตะวันตก  "ผมไม่คิดว่าคนเป็นหมอจะทำงานเหมือนนักธุรกิจ แต่ความคิดแบบนี้ก็เปลี่ยนไป" เรนูฟกล่าว "ด้วยเหตุนี้ตอนที่ผมเกิดไอเดียบรรเจิดเรื่องขจัดโรคให้หมดไปจากโลก  ผมจึงรู้สึกเข้าถูกทางแล้วที่เลือกคุยกับจอห์น"
ด้วยเหตุที่เซฟเวอร์นั้นเป็นนักวิจัย เขาซึมซับความรู้จากการศึกษาโรคที่เกิดจากการติดต่อในเด็ก เช่นโรคหัด และการพัฒนาวัคซีน  เป้าหมายการทำงานของเขาคือการวิเคราะห์หาต้นตอของโรคต่าง ๆ และจัดหาวัคซีนที่เหมาะสมเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้เด็ก ๆ ทั่วโลก  เขาตระหนักดีถึงข่าวดีที่โรคไข้ทรพิษที่ทรมานผู้คนที่ติดโรคนี้โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ได้ถูกกำจัดหมดสิ้นไปจากโลก เป็นโรคแรกที่พ่ายแพ้ต่อความร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข
เซฟเวอร์ยังเป็นเพื่อนกับโจนัส ซัลค์ และอับเบิร์ต เซบิน สองนักปฏิวัติวงการสาธารณสุขด้วยการประดิษฐ์วัคซีนโปลิโอในปีทศวรรษที่ 50 และ 60 ซึ่งมีความสามารถยับยั้งโรคโปลิโอในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในโลก และในสหรัฐอเมริกาเองก็มีผู้ป่วยคนสุดท้ายในปี พ.ศ.2522  เซฟเวอร์ชื่นชมวัคซีนแบบหยอดทางปากของเซบิน ที่มีต้นทุนต่อโดสเพียง 4  เซนต์ และเชื่อว่านี่คือหนทางที่จะช่วยให้เด็กปีละ 350,000คนปลอดภัยจากโรคโปลิโอ ข้อสำคัญต้องมีผู้ทีเหมาะสมมาบริหารจัดการเรื่องนี้
หลังจากที่ได้พูดคุยกับเรนูฟเกี่ยวกับเป้าหมายโรค เซฟเวอร์ปรึกษากับเซบิน และอีกสองสามสัปดาห์ต่อมาเขาได้ส่งจดหมายเสนอแนะว่า "หากมีเพียงโรคเดียวที่ต้องเลือกเพื่อบรรจุในโครงการ 3 เอช ผมขอเลือกที่จะเสนอโรคโปลิโอไมเอลิทิส"
โครงการ 3 เอชนั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น เป็นครั้งแรกที่โรตารีเข้าผูกพันทำโครงการที่อยู่นอกเหนือกำลังความสามารถของสโมสรหนึ่งสโมสรใด หรือแม้แต่ภาคใดภาคหนึ่ง ในขณะที่โครงการแรกของเราเริ่มในเดือนกันยายน พ.ศ.2522 มุ่งเป้าที่การให้วัคซีนกับเด็กในประเทศฟิลิปปินส์  โครงการนี้ตั้งใจให้ส่งผลในการพัฒนาสุขภาพ  ขจัดความหิวโหย และต่อยอดการพัฒนามนุษย์และสังคม  โรตารียังไม่เคยทำโครงการที่่ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์โดยรวมเช่นนี้กับองค์กรของเรามาก่อน
"เรื่องสำคัญคือเราต้องจัดหาวัคซีนโดยตรงจากผู้ผลิตและส่งต่อไปจนถึงประชาชนที่ต้องการรับวัคซีนนั้น"  เซฟเวอร์ หวนระลึกเหตุการณ์ในอดีต "ผมรู้ว่าโรแทเรียนทั้งหลายคือกองกำลังอาสาสมัครนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ พวกเราสามารถเข้าหารัฐบาลของประเทศต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือในภารกิจการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน จัดหาทุนสนับสนุน และสร้างพัฒนาการทางสังคม"
เรนูฟเชื่อเซฟเวอร์ ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกสโมสรโรตารีโพโตแมค รัฐแมรี่แลนด์ และได้โน้มน้าวผู้นำโรตารีท่านอื่น ๆ ให้เห็นสอดคล้องกันว่าองค์กรโรตารีนั้นมีความสามารถในการหยุดยั้งโรคโปลิโอได้ไม่ว่าจะพิจารณาจากความสามารถทางการเงินหรือในด้านการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับผลงานของผู้นำโรตารีในอดีต"  เรนูฟกล่าวว่า "นี่คือผลงานของโรแทเรียนคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นศักยภาพของโรตารี  ด้วยชื่อเสียงของตัวเขาเอง และด้วยพื้นฐานวิชาชีพที่เป็นอยู่สามารถโน้มน้าวคณะกรรมการบริหารโรตารีสากลปี 2522-23 ให้เห็นชอบรับแนวคิดโลกที่ปราศจากโปลิโอเป็นโครงการหลักของโปรแกรม 3 เอช"
เซฟเวอร์เป็นบุตรของนักฟิสิก เขาจำได้ดีว่าบิดาปกป้องลูก ๆ อย่างไรจากโรคโปลิโอ  ในเวลานั้น เขากล่าว "คุณสามารถซื้อประกันสำหรับโรคโปลิโอให้กับลูกที่เพิ่งเกิดใหม่" เขายังจำได้ว่าในช่วงวันอาทิตย์ ครอบครัวต่าง ๆ มักพากันไปรวมกันที่โรงเรียนหรือหน่วยงานสาธารณะเพื่อรับวัคซีน "เราเรียกวันอาทิตย์แบบนี้ว่า "เซบินออนซันเดย์ (หรือเอสโอเอส) หรือที่ตอนนี้เราเรียกกิจกรรมแบบนี้ว่าวันสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ (NID)"
เซฟเวอร์ผ่านการอบรมเป็นกุมารแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นและได้รับปริญญาเอกด้านจุลชีวศาสตร์ สำหรับที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และศูนย์การแพทย์เด็กแห่งชาตินั้น เขาทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มำงานกับคนไข้ เป็นผู้เชี่ยวชาญวัคซีนที่เข้าใจและเข้าถึงสังคม และนักบริหารการแพทย์ที่รู้ตื้นลึกหนาบางในการเมืองเรื่องสาธารณสุข
ทักษะเหล่านี้จะไปมีบทบาทสำคัญตลอดสามสิบปีต่อมาในการที่เซฟเวอร์กับโรแทเรียนอีกเป็นจำนวนมากร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนหน่วยงานสาธารณสุขชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกให้ต่อสู้กับโรคร้ายที่ทำให้เด็กแขนขาลีบเป็นอัมพาต เมื่อคาร์ลอส แคนสิโก้เป็นประธานโรตารีสากลในปร พ.ศ.2527-28 เขาได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่จะสามารถสร้างถูมิต้านทานโรคโปลิโอให้กับเด็กทั่วโลกภายในปีที่โรตารีมีอายุครบ 100 ปี. เซฟเวอร์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธาณในคณะกรรมการโปลิโอนี้ในปี พ.ศ.2548 โดยแผนดังกล่าวรวมถึงการที่โรตารีจะสามารถจัดหาวัคซีนและสนับสนุนประเทศใดก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือ  (ในปี พ.ศ.2538 เขาได้รับการแต่งตั้งอยู่ในกลุ่มที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นคณกรรมการโปลิโอพลัสระหว่างประเทศ  ซึ่งเขาเป็นรองประธานฝ่ายการแพทย์ในปี พ.ศ.2549). ในคณะกรรมนี้นอกจากมีประธานโรตารีสากลคานซิโกและเซฟเวอร์แล้วยังมีดอกเตอร์เซบินและเฮอร์เบิร์ท พิกแมน (เลขาธิการโรตารีสากล)  "คนทั้งสี่นี้แหละที่ผมเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริง" เรนูฟกล่าว 
ในบทบาทของเซฟเวอร์นั้น เขาคือศูนย์รวมทุกเรื่องที่เกี่ยวกับโครงการโปลิโอและเป็นโฆษกของโรตารีที่จะคอยให้ข่าวกับโลกภายนอกด้วย งานที่ท้าทายอย่างแรกของเขาคือการเชิญองค์การอนามัยโลกเข้าเป็นหุ้นส่วนในโครงการนี้ เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกมีท่าทีในตอนแรกที่เต็มไปด้วยความสงสัยไม่แน่ใจว่าโรแทเรียนจะรู้ว่ากำลังจะต่อสู้กับอะไร เซฟเวอร์กล่าวว่า "แคนซีโกกับผมต้องประชุมพูคุยด้วยอยู่นานกับเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลในเจนิวา พวกเขาก็ต้อนรับเราดีอยู่ แต่เขาไม่คิดว่าองค์กรนอกภาครัฐบาลจะทำได้ไกลขนาดนี้"
ด้วยความช่วยเหลือจากเซฟเวอร์ โรตารีได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่าเราเป็นองค์กรนอกภาครัฐให้ร่วมเป็นองค์กรเครือข่ายที่สามารถทำงานในฐานะหุ้นส่วนเพื่อเป้าประสงค์เดียวกัน และนี่คือหุ้นส่วนที่รู้จักกันในขณะนี้ว่า "ความริเริ่มในระดับโลกเพื่อการขจัดโปลิโอ" ที่ประกอบด้วยหุ้นส่วนจากองค์การอนามัยโลก  โรตารีสากล  ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา และ ยูนิเซฟ  หน่วยงานสนับสนุนเพิ่มเติมที่สำคัญคือมูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกทส์และรัฐบาลของทุกประเทศ  ความก้าวหน้าครั้งสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้อีกครั้งหนึ่งของกลุ่มหุ้นส่วนนี้คือการที่รัฐบาลอินเดียให้ความร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายหยุดการแพร่กระจายของโรคโปลิโอได้ในปี พ.ศ.๒๕๕๕  เมื่อตอนที่องค์การอนามัยโลกมอบหนังสือขอบคุณต่อนายกรัฐมนตรีอินเดียในความสำเร็จนี้  เขาได้กล่าวขอบคุณโรตารีและหุ้นส่วนต่าง ๆ  "ผมถึงกับลอยเลย" เซฟเวอร์กล่าว
เซฟเวอร์คือโฆษกที่พูดได้ชัดเจนและตรงประเด็น เขามีความเหมาะในหน้าที่นี้เพราะเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่อีกแง่หนึ่งเขาก็เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาได้รับการเชิดชูเกียรติในวิสัยทัศน์และระยะเวลาที่เขาทำงานอย่างต่อเนื่องในนามของผู้ต่อสู้กับโรคโปลิโอ เขามักจะโบกมือเหมือนภาพเจ้าหน้าที่อนามัยคอยปัดแมลงวันในหมู่บ้าน "มันไม่ใช่เพราะผมคนเดียว" เขากล่าวยืนยัน "ยังมีอีกหลายคนที่ช่วยกัน"
ผ่านไป 47 ปี กับการทำงานที่ NIH (สถาบันสุขภาพแห่งชาติ) และที่ศูนย์การแพทย์เด็กแห่งชาติ เซฟเวอร์ยังทำงานล่วงเวลาให้กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติด้วย  วันนี้ชายผู้มีความมานะบากบั่นอายุ 81 ปี ยังเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรณรงค์ด้วยแรงบันดาลใจที่เขาเคยเริ่มต้นไว้เมื่อ 34 ปีที่แล้ว  ตอนนี้ภารกิจเขาเสร็จไปแล้ว 99 เปอร์เซนต์ "งานชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นสุดท้ายนี้เป็นงานที่ยากที่สุด" เขากล่าว
บทบาทสองด้านของเซฟเวอร์ทั้งที่เป็นโรแทเรียนและนักวิทยาศาสตร์นั้นมีคุณค่าต่อการขจัดโรคโปลิโอที่มิอาจประเมินได้ ฮามิด จาฟารี ผู้อำนวยการรณรงค์ขององค์การอนามัยโลกกล่าว  "เขาเชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์และวิธีการทางเทคนิคของการสาธารณสุขที่นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกและซีดีซีเกี่ยวข้องอยู่ และโลกของโรตารีเข้าด้วยกัน เขาตอบคำถามให้กับโรแทเรียนได้ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ ยุทธศาสตร์ด้านเทคนิค และงานวิจัย เพราะฉะนั้นคำพูดของเขาจึงนับว่าสำคัญมาก
เมื่อตอนที่มีการปรับการโหมรณรงค์การให้วัคซีนประเภทตัวยาสามอย่างไปเป็นตัวยาอย่างเดียวกับสองอย่าง เพื่อจำกัดประสิทธิภาพการกวาดล้างไปที่สายพันธ์โปลิโอที่ยังหลงเหลืออยู่และแพร่กระจายอยู่เท่านั้น  เซฟเวอร์คือหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนความมั่นใจในการประยุกต์ยุทธศาสตร์ทางด้านนี้ "จอห์นทำถูกต้องในขณะนั้น" จาฟารีกล่าว "เพราะเขาเข้าใจวิทยาศาสตร์ เขาเข้าใจคุณค่าของการเปลี่ยนแปลง และเขาถูกต้องที่สนับสนุนเต็มกำลังในผลที่ยกระดับโครงการนี้ให้ไปไกลขึ้นไปอีก"
ในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เซฟเวอร์ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวในหลายโอกาสเพื่อประกาศแผนปี 2556-2561 สำหรับความริเริ่มในการขจัดโปลิโอให้หมดโลก แผนดังกล่าวเป็นการวางพิมพ์เขียวสำหรับการขจัดโปลิโอในสามประเทศที่ยังคงมีการแพร่กระจายเชื่อไวรัสโปลิโอประจำถิ่นอยู่ นั่นคือ อัฟกานิสถาน ไนจีเรีย และปากีสถาน และทำการตีตราว่าโลกนี้ปลอดจากไวรัศโปลิโอในปี 2561.
"การที่จะต้องมีเขาอยู่ที่นั่นด้วยนั้นมีความสำคัญมาก เพราะเขาคือผู้ประสานงานกับผู้หาทุนและเป็นผู้เสนอแผนยุทธศาสตร์คนแรก ๆ ความเป็นไปได้ในการหาทุนใช้จ่ายในโครงการนี้ให้เพียงพอ และเขายังพูดคุยภาษาเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นผู้จัดทำเอกสารต่าง ๆ"  จาฟารีกล่าว "คุณเหมือนมีคน ๆ หนึ่งที่พูดได้ทั้งสองโลก  และเมื่อที่คุณมีผู้อำนวยความสะดวกขนาดนี้อยู่ใกล้ ๆ ด้วย คุณก็จะสบายใจขึ้นเวลาที่ต้องให้ข่าวกับนิวยอร์คไทม์ หรือวอชิงตันโพสต์ หรือสำนักหนังสือพิมพ์ใหญ่ ๆ อื่น ๆ ที่มารวมอยู่ในห้องแถลงข่าว"
รัฐมนตรีสาธารณสุขหลายท่านที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลกในปี พ.ศ.2555 ได้ยกเอาประเด็นการรณรงค์ขจัดโปลิโอขึ้นสู่สถานะ "เร่งด่วน" เป้าหมายการทำงานพุ่งไปสู่การผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางการเมืองเพื่อให้ได้รับเงินบริจาค  ได้จัดทำทีวีและสิ่งพิมพ์เพื่อการรณรงค์ เช่น สื่อโฆษณา "เหลือเพียงเท่านี้" ของโครงการจบโปลิโอวันนี้ ซึ่งได้บุคคลสำคัญ ๆ มาเป็นแบบ เช่น บิลล์ เกทส์ และอาร์ชบิชช๊อบ เดสมอนด์ ตูตู้ เป็นภาพการโฆษณาที่ดึงควาสนใจสาธารณชนให้ตื่นตัวดีมาก
การโหมกำลังปิดฉากโครงการนี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก  ประมาณว่า 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะต้องมาจากการบริจาคหลากหลายแนวทาง  ทั้งผ่านทางองค์กรเอกชนนอกภาครัฐ (NGO) และจากการสนับสนุนของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เงินกองทุนนี้จะใช้ไปไม่เพียงในเรื่องของการระงับการแพร่กระจายของไวรัสโปลิโอแต่จะต้องใช้จ่ายในการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นตลอดเวลาสามปีหลังจากรายงานไม่พบการแพร่กระจายโรคโปลิโอแล้ว ซึ่งขั้นตอนนี้จำเป็นสำหรับการที่จะออกคำประกาศว่าโลกนี้ปราศจากโปลิโอโดยสมบูรณ์แล้ว

No comments: