Thursday, August 28, 2014

BUSINESS CLASS


Launch Detroit's Business class providing education background to borrowers
ก้าวสู่ชั้น (เรียน) ธุรกิจ
โรแทเรียนช่วยกันลงทุนกับเถ้าแก่ใหม่ในดีทรอยท์
บทความโดย แซลลีแอนน์ ไพรซ
รูปภาพโดย อลิซ เฮนสัน

--------------
Levi Johnson Jr. and his soul soup
ซ๊อสบาบีคิวที่ปรุงโดยเลวี่ จอห์นสัน รสชาติอร่อยมาก เขาเกิดที่เทสเนสซี่ เติบโตที่ดีทรอยท์ เรียนรู้วิธีปรุงอาหารแบบคนใต้ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ในช่วงพักร้อนที่บ้านเกิดของคุณแม่ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกคนแรกในครอบครัวที่เก็บกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านเกิดเพื่อไปหางานทำในภาคเหนือ เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นเหมือนคนกรุงที่แปลกหน้าที่ร่วมเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่เขากลับรู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ในครัวที่บ้านนี้  ดูคุณตาทำอาหารและลิ้มรสซ๊อสสูตรต้นตำรับของเขาอย่างเอร็ดอร่อย

ต้องนับว่าจอห์นสันเป็นคนดีทรอยท์ เพราะเขาแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่นี่ ทำงานให้กับคณะกรรมการบริหารการศึกษา ทำหน้าที่เป็นช่างคอยดูแลรถบัสของโรงเรียน เวลาว่างเขาไปเล่นดนตรีกับวงดนตรีท้องถิ่น ช่วยงานโบสถ์ และปรุงซ๊อสสูตรมายทีไฟน์โซลของมิสเตอร์เลวี่เพื่อทานเล่นในครอบครัวและแจกเพื่อน ๆ 

ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ ช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ โรงเรียนรัฐบาลจำนวนหนึ่งในสี่ต้องปิดตัวลง จอห์นสันตกงาน แต่ก็โชคดีที่เขาได้งานประเภทเดียวกันที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เงินเดือนและสวัสดิการน้อยกว่าที่ทำงานเก่า "ผมทำงานนี้มาสิบเก้าปี แล้วอยู่ ๆ ก็มาตกงาน" เขากล่าว "ผมยังไม่แก่พอที่จะเกษียณอายุการทำงาน ดังนั้นผมจึงพูดกับตัวเองว่า ต่อไปนี้ผมจะต้องค้นหาความสามารถในตัวเองที่จะแปลงมันเป็นรายได้ จุดนี้เองทำให้ผมเริ่มจริงจังกับการทำธุรกิจผลิตซ๊อสขาย"

จอห์นสันคือหนึ่งในจำนวนผู้ประกอบการใหม่ ๑๓ รายที่เข้าร่วมโครงการลอนช์ดีทรอยท์ ซึ่งดำเนินการโดยภาคโรตารี ๖๔๐๐ (บางส่วนของมิชิแกนและออนแทริโอ /แคนาดา) จัดบริการสินเชื่อขนาดย่อมและให้การศึกษาการประกอบธุรกิจ รวมทั้งจับคู่กับโรแทเรียนเพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เขาได้ทราบข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้ในโรงครัวพ่อค้าแม่ค้าอาหารในตลาดอิสเทิร์น ซึ่งเป็นตลาดประจำเมืองเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ  "ผมคุยกับใครบางคนถึงรายละเอียดว่าต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้างเพื่อจะได้เงินจากโครงการนี้มาผลิตสินค้าซ๊อสเป็นจำนวนมาก" จอห์นสันเล่าให้ฟัง  "จากนั้นผมได้รับอีเมลหนึ่งวันก่อนที่จะมีการเริ่มสำรวจเก็บข้อมูลของโครงการลอนช์ดีทรอยท์"  เขาศึกษาโครงการพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อมของหน่วยงานอื่นเช่นกัน แต่โครงการเหล่านั้นจะต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมโครงการมาก หรือไม่ก็ต้องเข้าร่วมศึกษาในชั้นเรียนวันทำงานปกติ "ดังนั้นเมื่อผมรู้ถึงรายละเอียดโครงการของโรตารี ผมรู้สึกว่าโครงการนี้ทำมาเพื่อสิ่งที่ผมรอคอยพอดิบพอดี มันตอบโจทย์ผมเลย คณะกรรมการวางแผนลอนช์ดีทรอยท์ตอบรับใบสมัครของจอห์นสันและอนุมัติเงินกู้ ๑,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ ในเดือนมกราคม เขานำเงินก้อนนี้ไปทำสัญญาซื้อบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ และทยอยส่งของไปขายเป็นล๊อตเล็ก ๆ ที่เขตเกรทเลคส์  บริษัทที่รับซื้อก็ช่วยจอห์นสันในการปรับปรุงสูตรอาหารเพื่อให้เข้ากับตลาดที่กว้างขึ้น ช่วยออกแบบฉลาก ตลอดจนส่งตัวอย่างไปให้สำนักงานอาหารและยาอเมริกัน (ยูเอสดีเอ) ตรวจเพื่อออกใบอนุญาตผลิต โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตส่งให้ร้านค้าจำนวน ๖๐ แห่งได้ก่อนในเบื้องต้น  โดยในขณะนี้โรแทเรียนที่เป็นพี่เลี้ยงของจอห์นสันช่วยเอาซ๊อสแห่งจิตวิญญานนี้ไปช่วยวางขายตลาดระดับบนแถบชานเมือง  "ผมต้องเรียนรู้อีกมาก แต่ก็ค่อย ๆ เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้มากกว่าในอดีต" จอห์นสันกล่าว "พอมีคนมาช่วยมากๆ โอกาสสำเร็จก็มีมากขึ้น"
สโมสรโรตารีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยส่งเสริมโครงการเงินกู้ขนาดย่อม (ไมโครไฟแนนซ์) ในประเทศสหรัฐอเมริกา  มีหลักฐานสนับสนุนว่าหากการให้เงินกู้พร้อมการอบรมและบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการรายย่อยจะได้ผลสัมฤทธิ์สูงสำหรับชุมชนที่ประสบภาวะลำบาก  แนวความคิดนี้เบ่งบานจากประเทศกำลังพัฒนาในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับความสามารถของสโมสรโรตารีที่มีอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ ต่าง ๆ ทั่วโลกโดยมีผู้นำในชุมชนเองที่มีความรู้ประสบการณ์มากล้นและยังมีเครือข่ายเพื่อนมากมายอีกด้วย
ในปี พ.ศ.๒๕๕๕ มาริลีน ฟิทซ์เจอรัลด์ สมาชิกสโมสรโรตารีทราเวิร์สซิตี้เสนอความคิดเกี่ยวกับโครงการเงินกู้รายย่อยในดีทรอยท์ให้กับผู้นำในภาค ๖๔๐๐ ฟัง  ภาคนี้กินพื้นที่ดีทรอยท์ วินด์เซอร์ ออนแทริโอ และพื้นที่รอบนอกทั้งสองด้านของแม่น้ำดีทรอยท์  ก่อนหน้านี้เธอเคยทำโครงการเงินกู้รายย่อยในประเทศกำลังพัฒนา จากนั้นก็ใช้แนวความคิดเดียวกันไปช่วยเกษตรกรในเขตภาคเหนือของมิชิแกน
"ถ้าเราทำโครงการเงินกู้รายย่อยสำเร็จในต่างประเทศได้ ทำไมเราจะทำให้มันสำเร็จไม่ได้ในดีทรอยท์" ฟิทซ์เจอรัลด์ถามตัวเอง  "ผู้คนเริ่มสังเกตเห็นว่าเศรษฐกิจสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ความแตกต่างนี้เป็นเรื่องดี"
แลร์รี่ ไรท์ ประธานคณะกรรมการจัดทำแผนโครงการลอนช์ดีทรอยท์ รู้ดีว่าโครงการนี้ใช้เงินไม่มาก ประมาณทศวรรษที่ ๑๙๗๐ เขาและซาราห์ (ภรรยา) ช่วยกันทำธุรกิจตกแต่งสวนโดยกู้เงินจากธนาคาร ๒,๕๐๐ เหรียญ เพื่อซื้อเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน  และเช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจรายย่อยอื่น ๆ ครอบครัวไรท์พบกับมรสุมชีวิต แต่ในที่สุดก็สามารถหาเงินมาคืนเงินกู้นั้นได้ และยังสามารถต่อยอดธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยก็ตาม
Williams and her baby clothes biz
"เราต่างเจ็บปวดจากสิ่งที่เราเห็นรอบ ๆ ตัวเราในบ้านเมืองนี้ และเรารู้ว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้" ไรท์ ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกสโมสรโรตารีเทย์เลอร์กล่าว  สโมสรนี้อยู่นอกเมืองแถวท้ายแม่น้ำดีทรอยท์  "ตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีมากสำหรับการเริ่มทำโครงการนี้  เรารู้สึกว่ามันเป็นโอกาสเหมาะที่เราจะก้าวเข้ามาทำมาทำอะไรบางอย่างที่เป็นสิ่งดี โดยเริ่มจากการทำสิ่งเล็ก ๆ นี้ก่อน"
โครงการนี้ได้รับการพิจารณาให้อยู่ในโครงการหลักหกประเภท เริ่มแรกตั้งเป้าหมายไว้ที่ผู้ประกอบการสุภาพสตรีในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของดีทรอยท์ซึ่งมีประชาชนเชื้อสายเม็กซิกันเป็นจำนวนมาก แต่ใบสมัครที่ส่งเข้ามานั้นกลับกลายเป็นมาจากทุกส่วนของดีทรอยท์ คณะกรรมการจึงต้องรับผู้สมัครมากเป็นสองเท่าจากที่คาดไว้ ส่วนผสมของผู้ประกอบการ ๑๓ รายมีตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ซึ่งครอบคลุมสถานที่ ๆ เป็นทั้งในห้องครัวของบ้านไปจนถึงร้านค้าที่อยู่ในอาคารเก่าแก่มีอายุนับร้อยปี ทุกรายมุ่งหวังที่จะเติบโต พัฒนาธุรกิจที่ทำอยู่ให้คุ้มกับเงินที่นำไปลงทุน
ฟิตซ์เจอรัลด์ช่วยไรท์และทีมงานพิจารณาโครงการที่สมัครเข้ามา  นอกจากการให้เงินกู้จำนวน ๑,๐๐๐ - ๒,๕๐๐ เหรียญที่มีดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อปี และต้องชำระคืนภายในหนึ่งปีแล้ว โปรแกรมนี้ยังจัดให้มีการให้ความรู้ และจัดหาพี่เลี้ยงแบบหนึ่งต่อหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งไรท์กล่าวว่า "เครือข่ายธุรกิจนี้ตามที่เรารู้กันดีว่า สำหรับโรแทเรียนมันมีค่าเป็นอย่างมาก เราสามารถนำทรัพยากรที่มีค่านี้ถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการในโครงการได้ใช้ประโยชน์ นั่นก็คือบริการอาชีพของโรตารีนั่นเอง"
ขั้นตอนแรกของการทำโครงการนี้คือการหาทุน  ซึ่งมีสโมสรโรตารี ๑๒ แห่งในภาคบริจาคให้และยังมีวิทยาลัยแห่งอัลเลนพาร์คซึ่งผู้อำนวยการเป็นโรแทเรียน มอบเงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ เหรียญ  เงินที่บริจาคนี้เตรียมไว้เพื่อการจัดการศึกษาทางด้านธุรกิจแก่ผู้ขอเงินกู้  โครงการนี้ใช้สถานที่ของวิทยาลัยเบเคอร์ จัดโปรแกรมให้เรียน ๕ ครั้งในช่วงฤดูใบไม้ล่วงปี ๒๕๕๖ แต่ละครั้งจะพูดถึงเนื้อหาทางธุรกิจที่แตกต่างกัน เช่นวิชาบัญชี กฎหมาย แล้วค่อย ๆ ทำความเข้าใจผ่านกรณีศึกษาที่เข้มข้นขึ้นในแต่ละครั้ง  ผู้ที่จะเป็นพี่เลี้ยงก็จะได้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งแรก ๆ เมื่อผ่านไปสองสามครั้งแล้วจึงให้เข้าจับคู่กับผู้สมัคร.
เอียร์มา เฟินเต้ เจ้าของร้านขายเครื่องมืออในดีทรอยท์ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ หลังเลิกเรียนเธอชอบอยู่พูดคุยกับเพื่อนและกลับเป็นคนหลัง ๆ  เธอกับสามีย้ายมาอยู่ที่ดีทรอยท์หลังแผนดินไหวครั้งใหญ่ในเม็กซิโกปี พ.ศ.๒๕๒๘ พวกเขาต้องช่วยกันเลี้ยงลูกชายสองคน เธอเองออกจะไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเองเท่าไหร่ ดังนั้นจึงค่อนข้างเครียดเวลาที่จะต้องไปเข้าชั้นเรียนใหม่ แต่ความจำเป็นบังคับเกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังแย่ ทำให้เธอไม่มีทางเลือกมากนัก
"การศึกษานั้นเป็นสิ่งมีคุณค่า แต่คนที่อายุมากอย่างดิฉันการจะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มันไม่ง่ายนัก"  เฟินเต้กล่าว "แต่พอมีพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจ คุณก็เรียนรู้ได้อย่างสบาย และถ้าคุณทำได้ เพื่อนบ้านของคุณก็น่าจะทำได้ คนที่อยู่เมืองอื่นก็น่าจะทำได้เหมือนกัน" หน้ากระดาษสีเหลืองจากนิตยสารเก้าแก่ฉบับหนึ่งติดอยู่บนผนังใต้หน้าต่างในร้านของเธอบอกได้ว่าร้านนี้มีตัวตนอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๔๐ ตอนนั้นแถวนี้มีแต่ชาวโปแลนด์  เศรษฐกิจที่ตกต่ำในช่วงทศวรรษ ๒๐๐๐ ส่งผลให้ชาวบ้านแถวนี้มีชีวิตที่ลำบาก  แต่หากคุณมองหน้าเฟินเต้ที่มีแต่รอยยิ้มคุณจะไม่มีทางรู้ถึงความลำบากที่เธอเคยประสบมาก่อน  เธอรับภาระดูแลร้านนี้มาหลังจากที่สามีเสียชีวิตตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๘ เธอเองต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งทรวงอกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒ แต่เฟินเต้สามารถปลอบประโลมใจตัวเองได้จากกำลังใจที่ได้จากลูกชายทั้งสองและหลานอีกสามคน รวมทั้งเพื่อนบ้านในชุมชนที่ร้านของเธอให้บริการอย่างดีมาตลอด.
"ฉันสอนลูก ๆ เสมอว่า ถ้าแม่เดินได้หนึ่งก้าว พวกเขาจะต้องเดินได้สองก้าว" เธอกล่าว "ดิฉันพอใจที่จะเป็นคนแรกในชุมชนที่จะเริ่มทำอะไรก็ตาม"
เฟินเต้ สำเร็จการฝึกอบรมตามโปรแกรมพร้อมกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอีก ๑๒ คนในเดือนเดือนมกราคม  เธอเอาเงินที่กู้ได้นี้ไปซื้อสินค้าคงคลังเพิ่มเติม หลังจากนั้นเธอดำเนินงานภายใต้การดูแลของโรแบร์โต ซานเชส โรแทเรียนพี่เลี้ยงของเธอ ซึ่งเป็นผู้มีเชื้อสายสเปนและเป็นอดีตผู้ว่าการภาคและประธานการเงินภาค  เขาจะมาเยี่ยมที่ร้านเป็นครั้งคราวเพื่อดูว่าธุรกิจเป็นอย่างไร และในฤดูร้อนที่จะมาถึงเขาอาสานำสโมสรโรตารีต่าง ๆ ให้เตื่นตัวในการเข้าชุมชนและสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับประชาชน
ซานเชสและไรท์ทั้งคู่เป็นกรรมการในคณะกรรมการลอนช์ดีทรอยท์ และอาสาเป็นพี่เลี้ยงให้  ประสบการณ์ของพวกเขาจะช่วยทำให้โครงการนี้ได้ผลที่น่าพอใจในอนาคต  "ก่อนจะมาทำหน้าที่พี่เลี้ยงเราต้องไปเข้าคอร์สอบรมการเป็นพี่เลี้ยงก่อน แต่พลังงานของพวกเราจะใช้ไปมากในเรื่องของการพัฒนาความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นในรอบการทำงานต่อไป" ไรท์กล่าว "การเป็นพี่เลี้ยงในตอนนี้จะช่วยให้งานในอนาคตมันง่ายขึ้น"
ครอบครัวไรท์ได้รับมอบหมายให้มาช่วยไบรอันนา บริเดล วิเลียมส์ ผู้สมัครขอกู้อายุเพียง ๒๖ ปี เด็กที่สุดในกลุ่มรุ่นนี้ เธอเริ่มทำธุรกิจชื่อ "ดีครีเอทเต็ด" มาสามปีแล้ว  ธุรกิจนี้คือการทำเสื้อผ้าเด็กขายในระบบออนไลน์ที่ทำกันในห้องใต้ดินของออฟฟิศในสวนสัตว์ดีทรอยท์ที่คุณแม่ของเธอทำงานตามสัญญาจ้างงานชั่วคราว และเธอก็โตมาจากห้องใต้ดินนี้เช่นกัน
"ตอนที่เราเริ่มทำงานนี้ เรามีเพียงแลบท๊อปตัวหนึ่ง จักรเย็บผ้า และตัวฉันกับแม่" วิลเลียมส์ทบทวนความหลังให้ฟัง  "วันนี้เราก้าวไปสู่จุดที่สามารถส่งของขายตามคำสั่งซื้อที่มาจากนิวซีแลนด์และบราซิล"  คุณแม่โยลันดา ทำหน้าที่ตัดเย็บและออกแบบ ในขณะที่วิลเลี่ยมส์คอยติดต่อลูกค้า คอยจัดหาผ้า หาออร์เดอร์ ส่งเสริมการขายในระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ และตอบอีเมลในตอนกลางคืนที่อาจถามเข้ามาจากผู้ที่กำลังจะเป็นแม่คน ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของเธอไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ผ้าห่ม ถุงผ้าอ้อม และเครื่องใช้ทารกต่าง ๆ
"ฉันรู้ว่ามีอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้ ฉันก็พยายามเรียนรู้ตลอด"  วิลเลียมส์กล่าว แม้มีทีท่าว่ามีความกระตือรือร้นและวินัยในการทำงานสูง เพราะเธอต้องการพัฒนาตัวเองให้เป็นมืออาชีพ "แลร์รี่และซาร่าห์มีประสบการณ์มากกว่าฉัน ฉะนั้นหากมีเรื่องที่ฉันยังขาดประสบการณ์ ฉันรู้ว่าจะปรึกษาใครได้ นี่คือประโยชน์อันยิ่งใหญ่"  โครงการลอนช์ดีทรอยท์ช่วยพาความฝันของวิลเลี่ยมส์ไปสู่ความเป็นจริง เธอนำเงินไปจ่ายดาวน์สัญญาซื้อห้องโชว์สินค้าในแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นลิเวอร์นัวส์  แม่ลูกคู่นี้ทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์เพื่อผลิตสินค้าส่งให้ทันตามออร์เดอร์ที่รับจากหน้าร้านที่เปิดใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  และช่วงฤดูร้อนธุรกิจก็จะเริ่มหนาแน่นขึ้นเพราะเป็นช่วงที่พ่อค้าแม่ค้าเอาสินค้าออกวางขายตามย่านถนนคนเดินใจกลางเมือง
วิลเลี่ยมส์ยังแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการบริการอาชีพของสโมสรโรตารีที่ไรท์สังกัด ซึ่งเขามีแผนที่จะไปทำกิจกรรมเพื่อแม่มือใหม่ในประเทศนิคารากัว  ธุรกิจของวิลเลี่ยมส์ได้รับโอกาสให้ผลิตชุดผ้าอ้อมจำนวน ๑,๘๐๐ ชุดเพื่อร่วมในโครงการความช่วยเหลือบรรดาคุณแม่ในเมืองชีนานดิก้า (ประเทศนิคารากัว) "เราพยายามเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งหลายได้มีส่วนร่วมลงมือทำโครงการของโรตารี" ไรท์อธิบาย "เราจะพูดว่า นี่คือการทำงานจิตอาสาของเหล่าโรแทเรียน และเราหวังว่าพวกคุณก็จะทำแบบเดียวกันเมื่อคุณเติบโตขึ้นเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ  คุณก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ตอบแทนสังคมและชุมชนของคุณเอง"  
คณะกรรมการลอนช์ดีทรอยท์คาดว่าจะได้เริ่มโครงการรอบใหม่โดยการเปิดชั้นเรียนธุรกิจเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่สมัครขอเงินกู้กลุ่มใหม่ภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้  ทีมงานของไรท์ได้เยี่ยมสโมสรโรตารีอื่น ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดและแบบจำลองของโครงการเพื่อสโมสรเหล่านั้นจะพิจารณาเข้ามีส่วนร่วมในโครงการนี้ และชักชวนธุรกิจท้องถิ่นให้เข้าร่วมด้วย แต่กลุ่มก็ยังไม่จบเร็วนักสำหรับกลุ่มแรกที่ผู้ประกอบการยังคงมีการทำเวิร์คชอปกันทุกเดือนในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การบัญชีขั้นสูง และการตลาดระดับรากหญ้า  พวกเขายังช่วยกันหาทุนและหาหุ้นส่วนธุรกิจ และองค์กรพัฒนาธุรกิจอื่น ๆ แล้วผู้กู้ที่คืนเงินกู้เร็วก็จะมีโอกาสในการกู้เงินก้อนใหญ่ขึ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเองต่อไป  
นี่เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นโดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่อย่างวิลเลี่ยมส์  ในขณะที่หนุ่มสาวรุ่นเดียวกับเธอต้องออกนอกเมืองผลิตรถยนต์อย่างดีทรอยท์แห่งนี้ เพื่อหางานทำที่อื่นที่รุ่งโรจน์กว่า  วิลเลี่ยมส์ยืนยันจะอยู่ที่นี่ทำธุรกิจของเธอต่อไป "ฉันตั้งใจที่จะทำดีครีเอทเต็ดห้เป็นธุรกิจของเมืองนี้"  เธอกล่าว "อนาคตของดีทรอยท์มีอีกมากมาย" 

===========
(บทสัมภาษณ์)
'เราไม่ใช่พวกหัวเก่า'
เดอะโรแทเรียนคุยกับนักเขียน มาริลีน ฟิทซ์เจอรัลด์ เกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการที่เงินกู้รายย่อย (ไมโครไฟแนนซ์)ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา  สมาชิกสโมสรโรตารีทราเวิร์สซิตี้ผู้นี้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยกลุ่มปฏิบัติการโรตารี สาขาไมโครไฟแนนซ์และการพัฒนาชุมชน

เดอะโรแทเรียน : คุณได้ปรับเปลี่ยนหลักการไมโครไฟแนนซ์อย่างไรบ้างเพื่อให้มันใช้ได้ในอเมริกา
ฟิทซ์เจอรัลด์     : ในประเทศกำลังพัฒนา คุณอาจต้องการเงินเพียง ๒๕๐ เหรียญเพื่อลงทุนทำอะไรสักอย่างแล้วสามารถทำกำไรอย่างเพียงพอ  ที่นั่นเป้าหมายของเงินกู้อาจใช้ไปเพื่อทำให้ท้องอิ่ม ลูกไปโรงเรียนได้  แต่เป้าหมายเหล่านี้คงใช้ไม่ได้กับที่อเมริกาที่ให้กู้รายย่อยกันมากถึง ๒,๕๐๐ เหรียญ เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจมันสูงกว่ากันมาก แต่เราสามารถช่วยสร้างเครดิตให้พวกเขาได้ 
แต่เดิมผู้กู้อเมริกันต้องเป็นคนมีเครดิตดีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เราพยายามให้กู้กับผู้กู้ที่ต่างไปจากเดิม แล้วเปลี่ยนเขาเหล่านั้นให้เป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและสุดท้ายจึงเข้าสู่วิธีดั่งเดิมในการขอกู้จากธนาคาร  ความล้มเหลวในอัตราชำระคืนเงินกู้ในประเทศนี้เกิดกับธุรกิจขนาดย่อมสูงมาก  ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่สามารถทำกิจการให้สำเร็จภายในช่วงข้ามคืน หลายรายได้พยายามทำในสิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำอีก โครงการไมโครไฟแนนซ์ให้โอกาสแก่เจ้าของธุรกิจเหล่านี้และวางเส้นทางธุรกิจที่เขาสามารถอยู่ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน 

เดอะโรแทเรียน :  แล้วถ้ายกเรื่องการตรวจสอบประวัติเครดิต และไม่ต้องมีหลักทรัพย์คำ้ประกันออกไป คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้กู้จะชำระคืนเงินเมื่อถึงกำหนด
ฟิทซ์เจอรัลด์     : ในประเทศกำลังพัฒนา เราใช้วิธีเพื่อนควบคุมเพื่อน ทุกคนในกลุ่มเพื่อนรับผิดชอบต่อเงินกู้ และกลุ่มก็กำหนดวิธีการจัดการกับคนที่ไม่ชำระคืนเงินกู้  ที่นี่เราให้กู้เป็นแต่ละรายแยกจากกัน แต่เราก็มีโรแทเรียนที่มีความรู้ลึกในการทำธุรกิจคอยให้ความรู้ เป็นพี่เลี้ยง และเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ตลอด ถ้าคุณกู้เงินจากธนาคารและเพิกเฉยการชำระคืน คุณจะได้รับจดหมายเป็นกอง ๆ จากธนาคาร จดหมายพวกนี้คุณไม่อยากเปิดอ่านแน่นอน  อันนี้เป็นวิธีการแบบเดิม ๆ แต่เราไม่ใช่สถาบันแบบเก่า เราต้องการสร้างความสัมพันธ์ ถ้าผู้กู้ไม่ประสบความสำเร็จ เราจะเข้าไปคุยด้วยแล้วช่วยวิเคราะห์ปัญหาด้วยกัน  และถ้าจำเป็นเราก็ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้หรือช่วยเขาปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจให้มันประสบความสำเร็จ
เดอะโรแทเรียน : คุณมีคำแนะนำอะไรให้กับสโมสรโรตารีอื่นๆ ที่อยากทำโครงการไมโครไฟแนนซ์หน่อยไหม
ฟิทซ์เจอรัลด์     : ก่อนอื่นต้องประเมินความสนใจของคน  ในดีทรอยท์เราแจกใบปลิวให้คนในชุมชนและจัดประชุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ถามหาความตั้งใจจริงและความช่วยเหลือที่เขาต้องการจริง ๆ คุณต้องให้ความใกล้ชิดกับผู้กู้ของคุณ ตรวจดูว่าเขามีทรัพยากรอะไรของตัวเองอยู่บ้าง จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร เจาะใจเขาให้บอกความต้องการที่แท้จริงว่าต้องการเห็นกิจการของตัวเองเป็นอย่างไร  จากนั้นคุณต้องใคร่ครวญดูว่าอะไรสำคัญต่อองค์กรของคุณ แล้วจึงต่อรองกับผู้สมัครขอเงินกู้เรื่องเงื่อนไขที่จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการ คุณเองก็ต้องตัดสินใจในภาพรวมว่าอยากเห็นอะไรเกิดขึ้น แค่ให้รู้สึกดีคงจะไม่พอ จะต้องกำหนดให้ได้ว่าอะไรคือเครื่องมือในการวัดความสำเร็จของโครงการ  การวางแผนกลยุทธ์ก็มีความสำคัญเพราะผู้บริจาคและผู้อุปการะต้องการเห็นภาพที่ชัดเจนว่าคุณกำลังพยายามทำอะไรอยู่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสโมสรโรตารีต่าง ๆ เพราะคุณต้องคุยกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับผู้ประกอบการเพื่อขอโอกาส นี่ไม่ใช่การทำการกุศล โรแทเรียนเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ดี

No comments: