ที่ปรึกษา
สำคัญตรงไหน
โดย โรเบิร์ต ดี. พัทนัม
ภาพโดย เกรก คลาก
โรแทเรียนให้คำปรึกษากับเยาวชนตามชุมชนต่าง ๆ ทุกวัน
การให้คำปรึกษาเหล่านั้นส่งผลให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
คนอเมริกันมักคิดถึงตัวเองว่าเป็นคนเก่งแบบ "ข้ามาคนเดียว" ไม่ว่าจะเห็นจากในภาพยนตร์คาวบอยควบม้าเข้าสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่มีฉาก หลังเป็นพระอาทิตย์กำลังตก แต่หากว่าเราจะคิดสักนิดถึงความจริงที่ว่าสัญลักษณ์ของนิยายอเมริกันต้อง เกี่ยวข้องกับขบวนรถไฟที่นำเอาความช่วยเหลือจากชุมชนของผู้ บุกเบิก ลูกตุ้มกาลเวลาแกว่งไปมาระหว่างขั้วพระเอกตัวคนเดียวกับอีกขั้วคือชุมชน ทั้งสองต่างปรากฎอยู่ในความคิดเชิงปรัชญาและในชีวิตจริงของเรา ในช่วงกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะร้ายหรือดีเราก็ได้พบเห็นลูกตุ้มยักษ์แกว่งอยู่ระหว่างขั้วสุดยอดคน ในสังคม การเมือง วัฒนธรรม ในขณะเดียวกันอีกขั้วหนึ่งนักวิจัยก็ป้อนข้อมูลหลักฐานที่ว่าสังคมมีความ สำคัญเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นสถาบันทางสังคม ระบบเครือข่ายในสังคม หรือกล่าวสั้น ๆ คือ ชุมชนนั่นเอง ก็ยังเป็นขั้วที่เติมเต็มความมั่งคั่งให้กับประเทศและเป็นโอกาสของลูกหลาน ของเรา
โดย โรเบิร์ต ดี. พัทนัม
ภาพโดย เกรก คลาก
โรแทเรียนให้คำปรึกษากั
คนอเมริกันมักคิดถึงตัวเองว่าเป็นคนเก่งแบบ "ข้ามาคนเดียว" ไม่ว่าจะเห็นจากในภาพยนตร์คาวบอยควบม้าเข้าสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่มีฉาก หลังเป็นพระอาทิตย์กำลังตก แต่หากว่าเราจะคิดสักนิดถึงความจริงที่ว่าสัญลักษณ์ของนิยายอเมริกันต้อง เกี่ยวข้องกับขบวนรถไฟที่นำเอาความช่วยเหลือจากชุมชนของผู้ บุกเบิก ลูกตุ้มกาลเวลาแกว่งไปมาระหว่างขั้วพระเอกตัวคนเดียวกับอีกขั้วคือชุมชน ทั้งสองต่างปรากฎอยู่ในความคิดเชิงปรัชญาและในชีวิตจริงของเรา ในช่วงกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะร้ายหรือดีเราก็ได้พบเห็นลูกตุ้มยักษ์แกว่งอยู่ระหว่างขั้วสุดยอดคน ในสังคม การเมือง วัฒนธรรม ในขณะเดียวกันอีกขั้วหนึ่งนักวิจัยก็ป้อนข้อมูลหลักฐานที่ว่าสังคมมีความ สำคัญเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นสถาบันทางสังคม ระบบเครือข่ายในสังคม หรือกล่าวสั้น ๆ คือ ชุมชนนั่นเอง ก็ยังเป็นขั้วที่เติมเต็มความมั่งคั่งให้กับประเทศและเป็นโอกาสของลูกหลาน ของเรา
นักสังคมวิทยามักใช้คำว่า "ทุนสังคม"
เพื่ออธิบายการต่อเชื่อมทางสังคม
ซึ่งหมายความถึงความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่เป็นทางการกับครอบครัว
เพื่อน เพื่อนบ้าน และคนรู้จัก
ที่เกี่ยวโยงออกไปสู่สังคมพลเมือง สถาบันศาสนา ทีมนักกีฬา
กิจกรรมของอาสาสมัคร เป็นต้น
ทุนสังคมนั้นได้รับการยืนยันบ่อย ๆ
ว่าเป็นดัชนีบ่งชี้ที่หนักแน่นว่าชุมชนหรือปัจเจกบุคคลอยู่ในสถานภาพที่ดี
การยึดโยงกันในชุมชนและเครือข่ายสังคมมีผลมากต่อสุขภาพ
ความสุข ความสำเร็จทางการศึกษา ความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
ความปลอดภัยในสังคม และ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง)
สวัสดิภาพของเยาวชน
แต่ว่ามันก็เหมือนกับทุนทางการเงินและทุนมนุษย์
ทุนสังคมนั้นถูกจัดสรรออกไปอย่างไม่เท่าเทียม
และความแตกต่างในการเชื่อมโยงทางสังคมเป็นผลต่อช่องว่างทางโอกาสสำหรับ
เยาวชน
ห้องเรียนส่งผลต่ออนาคตของความเป็น "เพื่อนสนิท"
ที่จะผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นยาวนาน
ที่อาจเกื้อกูลกันต่อไปได้ทางจิตใจและอาจมากถึงทางวัตถุ
หนึ่งในห้าของผู้ปกครองที่มีระดับความเป็นอยู่ดีมีรายงานว่ามีเพื่อนสนิท
มากถึง ๒๐ - ๒๕ เปอร์เซนต์
มากกว่ากลุ่มพ่อแม่หนึ่งในห้าที่อยู่ระดับล่าง
บางทีสิ่งที่น่าจะมีความสำคัญกว่า
ก็คือการที่คนอเมริกันที่มีความรู้ดีและมีเครือข่าย
"ความสัมพันธ์แบบหลวม ๆ"
มากและเชื่อมโยงเป็นวงกว้างหลากหลายระดับชั้น
การเข้าถึงและลักษณะความหลากหลายของความสัมพันธแบบหลวม ๆ
นี้มีคุณค่าต่อสังคมในอันที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการศึกษาและเศรษฐกิจที่ดี
ขึ้น
เพราะว่าความสัมพันธ์แบบนี้เปิดทางให้ผู้ปกครองและเด็กที่มีฐานะดีตักตวง
ประโยชน์เครือข่ายผู้มีความรู้และมีความมั่งคั่งได้มากกว่า
เด็ก ๆ และผู้ปกครองที่มีฐานะยากจนกว่า
พ่อแม่ที่จบวิทยาลัยมักจะมีหนทางในการทำความรู้จักกับคนมาก
หน้าหลายตา ความสัมพันธ์หลวม ๆ นี้ดีเยี่ยม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาชีพการงานที่จะสร้างความก้าว
หน้าสืบเนื่องไปของลูก ๆ เช่น อาชีพอาจารย์ ครู นักกฎหมาย
บุคคลากรทางการแพทย์ ผู้นำทางธุรกิจ
แต่ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดกับชนชั้นแรงงานดั้งเดิมก็คือเครือข่ายที่มีอาชีพ
เป็นตำรวจและเครือข่ายเพื่อนบ้าน
การให้คำปรึกษาหรือการกลุ่มพี่เลี้ยงภายนอกครอบครัวมีบทบาท
สำคัญชัดเจนในการช่วยให้เด็กพัฒนาศักยภาพของตนเองมากยิ่ง
ขึ้น
การให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการนั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นปกติและ
ไม่ยั่งยืนเมื่อเทียบกับการให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ
ในการสำรวจระดับประเทศเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๖
เยาวชนตอบแบบสอบถามจำนวน ๖๒
เปอร์เซนต์บอกว่าได้รับคำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ
(หรือแบบธรรมชาติ) ในขณะที่เพียง ๑๕
เปอร์เซนต์รับคำปรึกษาแบบเป็นทางการ
ยิ่งไปกว่านั้นการให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการยังมีช่วงเวลายาวนานถึง
๓๐ เดือน ในขณะที่คำปรึกษาแบบเป็นทางการจบลงภายในเวลา ๑๘
เดือน
อย่างไรก็ตามค่าเฉลี่ยระดับประเทศเหล่านั้นทำให้ผลต่างใน
การเข้าถึงการให้คำปรึกษาที่มีอยู่สูงมากนั้นยังไม่ชัดเจน
กล่าวคือการให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการยังคงเป็นสิงที่
ปกติธรรมดาสำหรับเด็กจากครอบครัวร่ำรวยระดับกลางไปจนถึง
ระดับสูงในขณะที่เด็กจากครอบครัวรายได้ต่ำจะเข้าถึงยากกว่า
เมื่อดูคะแนนรวมทุกกลุ่มสำหรับการให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทาง
การภายนอกครอบครัว เช่น ครู เพื่อน ๆ ของคนในครอบครัว
ผู้นำเยาวชน ผู้นำศาสนา โคช
ผลปรากฎว่าเด็กที่มาจากครอบครัวชั้นสูงเข้าถึงได้มากกว่าสองถึงสามเท่า
เด็กฐานะดีและเพื่อน ๆ
ของเขาที่มีฐานะด้อยกว่าจะมีโอกาสเท่าเทียมกันสำหรับคนในครอบครัวในการเข้า
ถึงคำปรึกษา
แต่เด็กครอบครัวฐานะดีมักจะได้จะได้คำแนะนำจากผู้มีความเชี่ยวชาญสูงกว่า
ดังนั้นคำแนะนำสำหรับครอบครัวมักจะมีผลต่อความสำเร็จทางการ
ศึกษาของเด็กในครอบครัวฐานะดีกว่า
กล่าวโดยสรุปคือเด็กจากครอบครัวมีฐานะดีมักจะได้คำแนะนำแบบไม่เป็นทางการที่
ดีกว่า
ช่องว่างของการได้รับคำปรึกษานั้นมีกว้างมากในเด็กนักเรียน
ระดับประถม
และมีมากขึ้นเมื่อเด็กเรียนถึงระดับชั้นมัธยมต้น
ความจริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
คือการให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการไม่ได้ช่วยปิดช่องว่างได้มากนัก
ความจริงคำปรึกษาแบบเป็นทางการชดเชยได้เพียงเล็กน้อย
สำหรับนักเรียนระดับประถมกับมัธยมและจะหายไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อเด็กมีอายุมากขึ้น
ในชั้นระดับมัธยมปลายนั้นไม่มีความแตกต่างกันเลยสำหรับการรับคำปรึกษาแบบ
เป็นทางการ ดังนั้นโดยรวมแล้วช่องว่างของการให้คำปรึกษา
(ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ)
นั้นเริ่มในระดับประถมและเพิ่มขึ้นมากเมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือจากนอก
ครอบครัว
ผลการศึกษามากมายระบุว่าคนอเมริกันที่มีการศึกษามีเครือ
ข่ายเชื่อมโยงเขาทั้งในระดับกว้างและลึก
ทั้งกลุ่มคนใกล้ตัวเช่นครอบครัวเพื่อนและไกลออกไปในสังคมที่กว้างขวาง
ตรงข้ามคนอเมริกันที่มีการศึกษาต่ำ
มีเครือข่ายทางสังคมที่ด้อยกว่า ซ้ำซ้อนในวงแคบ ๆ
และยึดติดอยู่ในครอบครัว
(ซ้ำซ้อนในวงแคบหมายถึงเพื่อนรู้จักคนที่เขารู้จักทั้งหมด
พวกเขายังขาดการเข้าถึง "เพื่อนของเพื่อน"
แบบที่คนอเมริกันชั้นสูงมีกัน
กล่าวโดยสรุปคือพ่อแม่ของเด็กที่เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัยมีเพื่อนสนิท
มากกว่าและมีคนรู้จักมากกว่าพ่อแม่ของเด็กที่มีการศึกษา
น้อย
ห้องเรียนส่งผลต่
บางทีสิ่งที่น่าจะมีความสำคั
พ่อแม่ที่จบวิทยาลัยมักจะมี
ในทางตรงกันข้าม
ความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้ปกครองที่อยู่ในชนชั้นระดับล่างกลับรวมศูนย์ไว้
อย่างไม่เหมาะสมในกลุ่มครอบครัว
(และอาจเพียงไกลออกไปในกลุ่มเพื่อนโรงเรียนมัธยมศึกษาและเพื่อนบ้านใกล้
เคียง)
ซึ่งด้วยเหตุผลที่พวกเขาอยู่ในตำแหน่งทางสังคมในระดับที่ไปสุดที่ผู้ปกครอง
ถึงแม้ครอบครัวที่มีความรู้ดีมีฐานะพอใช้ได้จะได้เปรียบที่
มีเครือข่ายส่วนตัวขนาดใหญ่กว่า
สิ่งที่สำคัญกว่าคือคุณภาพของเครือข่ายที่มีอยู่นั้นว่ากลุ่มเพื่อนหรือคน
รู้จักในเครือข่ายนั้นสามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่พวก
เขาและลูก ๆ ได้
ผู้ปกครองที่มีฐานะดีจะสามารถสร้างเครือข่ายแบบหลวม ๆ
ให้กับลูกของตัวเองได้ด้วยการจัดให้พบปะกับเพื่อนเด็กโตด้วยกัน
คนทำงาน หรือในกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้ ในขณะที่เด็ก ๆ
จากครอบครัวคนทำงานจะไปมาหาสู่กันเฉพาะญาติสนิทกับเพื่อนบ้าน
ทำให้การสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพเกิดขึ้นได้ยาก
เมื่อลูก ๆ
ของครอบครัวมีฐานะปรับตัวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
เลือกวิชาหลัก และวางแผนการทำงาน
พวกเขามีผู้ให้คำปรึกษาที่เชื่อถือได้หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว คณะที่เรียน หรือบุคคลภายนอก
ในขณะที่เด็กจากครอบครัวยากจนจะปรึกษาเฉพาะกับสมาชิกในครอบ
ครัวที่สนิทกันคนหรือสองคนเท่านั้น
และจะยิ่งน้อยลงไปอีกถ้าในครอบครัวไม่มีคนที่มีประสบการณ์จากมหาวิทยาลัย
กล่าวโดยสรุปคือเครือข่ายสังคมของครอบครัวมีฐานะดีมีการ
ศึกษาสูงจะเป็นหลักประกันการขยายความมั่งคั่งทางโอกาสแก่
เด็ก ๆ ในครอบครัว
การสร้างสายสัมพันธ์มีความสำคัญไม่เพียงแต่การหาโรงเรียน
หรืองานดี ๆ เท่านั้น ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีมากพอ ๆ
กับเส้นทางการมีโอกาสได้ฝึกงานหรือมุมหนึ่งของงานออฟฟิศ
นั่นก็คือการที่ทุนสังคมสามารถปกป้องเด็กที่มีฐานะดีจากภัยที่เกิดขึ้นกับ
วัยรุ่น การศึกษาตลอด ๔๐
ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นผลที่ค่อนข้างคงที่ว่าการใช้ยาเสพติดหรือดื่มของมึน
เมาเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเด็กที่มีฐานะดีไม่ต่างจาก
เด็กยากจน
แต่ที่แตกต่างกันคือครอบครัวและชุมชนให้การปกป้องคุ้มครองจนเด็กที่มาจาก
ฐานะดีได้รับผลลบน้อยที่สุดจากยาเสพติดและภัยร้ายต่าง ๆ
ผู้ปกครองที่มีฐานะดี
การสร้างสายสัมพันธ์มีความสำคั
การให้คำปรึกษาหรือการกลุ่มพี่
การประเมินผลที่จัดทำด้วยความระมัดระวังของหน่วยงาน
อิสระได้แสดงให้เห็นว่าการให้คำปรึกษาอย่างจริงจังสามารถ
ช่วยเด็กที่อยู่ในภาวะเสี่ยงพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่
(รวมถึงพ่อแม่)
ผลดีที่ตามมาคือการศึกษาและจิตวิทยาสังคมที่ดีขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ช่วยเรื่องคะแนนเข้าเรียน ผลการเรียน
สร้างคุณค่าให้แก่ตนเอง และลดการใช้ความรุนแรง
การประเมินผลนี้ได้ผลค่อนข้างคงที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวแปรที่อาจมี
น้ำหนักมาก
ผลที่วัดได้นี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อการให้คำปรึกษาทำอย่างต่อเนื่องยาวนาน
และเป็นผลชัดเจนกับเด็กที่อยู่ในสภาวะเสียงสูง
(เด็กจากชนชั้นสูงมีโอกาสรับคำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการอยู่แล้วรอบ
ๆ ตัวพวกเขา
ดังนั้นการให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการไม่มีผลมากนักต่อความสำเร็จของพวกเขา)
จากผลการประเมินนี้สรุปว่าการให้คำปรึกษาทำให้เกิดผลที่มี
ประสิทธิภาพ
การให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการนั้
อย่างไรก็ตามค่าเฉลี่ยระดั
เมื่อดูคะแนนรวมทุกกลุ่มสำหรั
ช่องว่างของการได้รับคำปรึกษานั
กล่าวโดยย่อ
สองในสามของเด็กครอบครัวรำ่รวยมีผู้ให้คำปรึกษาที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ในขณะ
ที่สองในสามของเด็กยากจนไม่มี
ช่องว่างที่ชัดเจนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเด็กยากจนไม่ต้องการคำปรึกษา
เพราะความจริงก็คือเด็กยากจนซึ่งมีจำนวนมากถึงสองเท่าของ
เด็กครอบครัวมีฐานะมีช่วงสำคัญของชีวิตที่ต้องการที่ปรึกษา
แต่ไม่สามารถหาที่ปรึกษาได้
ผลประการหนึ่งของการเกิดช่องว่างของการมีที่ปรึกษาคือ
การซำ้เติมช่องว่างของการเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดของเด็ก ๆ
ซึ่งทำให้เด็กที่มีฐานะดีได้เปรียบกว่าในสังคมสามารถเรียน
รู้การเอาตัวรอดจากโอกาสที่มีให้เลือกมากกว่า
จากการสัมภาษณ์แสดงว่า เด็กวัยรุ่นอายุ ๑๘ - ๑๙
ปีทั่วประเทศไม่เข้าใจกับการปฏิบัติตัวในโรงเรียน
ไม่ว่าจะเป็นระบบสองหรือสี่ปีในโรงเรียน
หรือการจัดการการเงิน โอกาสในการได้งานทำ
และแม้แต่โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเอง เช่น
โปรแกรมการให้เงินกู้เพื่อการศึกษา
พอ่แม่ที่มีความรู้น้อยก็มีทักษะจำกัดหรือไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะ
อธิบายสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
ข้อสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือการที่พวกเขาขาดเครือข่ายที่ปรึกษาแบบไม่เป็น
ทางการในขณะที่พวกเด็กรวยมีอยู่รอบตัว
ตัวอย่างหนึ่งที่น่าหดหู่ก็คือในระหว่างที่พวกเราเก็บข้อมูลสัมภาษณ์อยู่
นี้
คุณพ่อจากครอบครัวชนชั้นแรงงานถามเราว่าเขาจะนำลูกสาวมาร่วมสัมภาษณ์พร้อม
กับลูกชายได้หรือไม่
เพื่อว่าลูกสาวคนนี้จะได้พบปะกับพวกคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยบ้าง
โปรแกรมดี ๆ
ที่ตอบสนองต่อช่องว่างทางโอกาสจะช่วยตอบสนองช่องว่างของการเรียนรู้
และในที่สุดจะปิดช่องว่างแห่งการให้คำปรึกษาได้.
----------
สโมสรของท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง
โปรแกรม
ของโรตารีหลากหลายโปรแกรมที่มุ่งพัฒนาเยาวชน
ท่านอาจเริ่มจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
อินเตอร์
แรคท์ เป็นสโมสรเยาวชนที่สโมสรโรตารีให้การ
อุปถัมภ์สำหรับกลุ่ มเยาวชนที่มี
อายุ ๑๒-๑๘ ปี ท่านสามารถให้การอุปถัมภ์ได้แบบการตั้ง
สโมสรในโรงเรียนหรื อแบบในชุมชนก็
ได้ โดยดูขั้นตอนตามเอกสารในเว็ บไซท์ต่อไปนี้ www.rotary.org/take-action/empower-leaders/sponsor-interact-club .
ไร
ลา หรือ รางวัลผู้นำเยาวชนโรตารี
โดยปกติไรลาคือกิจกรรมเยาวชนที่ออกแบบมาเพื่อ
นักเรียนในระดับชั ้นมัธยมศึกษา
แต่สามารถปรับหลักสูตรเพื่อเด็กโตขึ้นที่มี
ความเป็นผู้นำ หากต้องการจัดกิจกรรมไรลาโปรดดู รายละเอียด
เพิ่มเติมที่ www.rotary.org/take-action/empower-leaders/organize-ryla-event
ต้อง
การข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมของโรตารีที่เกี่ยว
กับเยาวชน
ตลอดจนทุนการศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมได้ที่ www.rotary.org/myrotary/take-action/empower-leaders .