บอกความลับของคุณในสโมสร
ดัชแชน "ดุด" แองกัส
สโมสรโรตารีลอสแอลทอส แคลิฟอร์เนีย
วันสุกดิบก่อนวันคริสต์มาสปี พ.ศ.๒๕๓๑ ผมไปรับสตีฟ ลูกชายจากสนามบิน เขาเป็นคนดูแลตัวเองดี แต่ออกจะผอมไปภายใต้สีผิวที่ดู ซีด ผมไม่ได้พูดอะไร แต่เช้าวันคริสต์มาส ผมถามเขาว่า "ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า"
เขาตอบว่า "ไม่ค่อยดีครับ ที่จริงรู้สึกจะแย่มากเลย" ตอนแรก เขาบอกว่าเขาเป็นโรคคาโปซี่ ซาโคมา ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของคนเป็ นโรคเอดส์ ดูเอาเถิดครับเป็นขนาดนี้แล้ วยังไม่ยอมใช้คำพูดตรง ๆ แต่สุดท้ายเขาก็สารภาพว่า "ตอนอยู่ที่ยูซีแอลเอ เขาไปติดไวรัสมา"
ผมถึงได้รู้ว่ามันคือไวรัสเอดส์
ตอนนั้นพวกเราทุกข์ใจกันสาหั สมาก สำหรับผมเองถึงกับอยู่ ในอาการซึมเศร้าไปหลายเดือนเลย โอ้พระเจ้า! ผมเบื่อชีวิตอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังพอมีความพยายามที่จะปิ ดบังความซึมเศร้า ซึ่งก็ต้องฝีืนจนเกือบเอาชีวิ ตไม่รอด พอมาได้คิดทบทวนอย่างรอบคอบแล้ ว ก็บอกกับตัวเอง "ถึงเวลาต้องทำอะไรสักอย่าง" ผมตัดสินใจเอาเรื่องนี้ไปเล่ าให้เพื่อนสมาชิกฟังในสโมสร ผมเพียงอยากรู้ว่ าเราจะทำอะไรเพื่อให้ความรู้ และเตื่อนคนอื่น ๆ ได้อย่างไรบ้าง
พญามัจจุราชกำลังจะเอาชีวิตลู กชายผมไป หลายคนอยากปกป้องเขา แต่ด้วยความรู้สึกอับอาย สตีฟจึงไม่อยากจะเข้าหน้ าคนมากนัก ผมเองก็ไม่ละความพยายามที่ จะเกลี้ยกล่อมเขา ให้เหตุผลว่าหากเราสามารถช่วยชี ิวิตคนอื่นได้อีกสักคนสองคนมั นน่าจะดีไม่ใช่หรือ ผมบอกว่า "ใครก็ตามที่ห่วงใยเรา เขาจะต้องสนับสนุนความคิดนี้" สุดท้ายเขายอมรับในความความคิ ดนี้
วันที่ผมจะไปพูดให้เพื่อนสมาชิ กฟัง ผมรู้สึกค่อนข้างว้าเหว่ ไม่รู้ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร แต่ผมคิดว่าผลจะเป็นอย่างไรผมก็ ไม่แคร์ ผมแค่อยากให้พวกเขารับรู้เรื่ องของลูกเท่านั้น
ผมเคยเป็นนักกีฬามาก่อน ชอบคิดอะไรเป็นเหมือนเกม และนี่ก็เป็นวันประลอง ผมเตรียมเล่นเกมนี้มาอย่างดี ไม่ต้องการให้ตอนไหนของเกมหลุ ดไปเหมือนเป็นบทละครน้ำเน่า แต่อยากให้ดำเนินไปแบบการเล่ าเรื่องและจบลงด้ วยการถามความสนใจว่ามี ใครอยากจะร่วมตั้งหน่ วยงานเฉพาะกิจเพื่อต่อสู้กั บโรคเอดส์บ้าง
ผมลุกขึ้นยืนพูด แล้วก็แปลกใจตัวเองที่พูดได้ โดยไม่ติดขัดแม้ในช่วงที่พูดถึ งสตีฟ ไม่มีอาการปากคอสั่น ตอนที่ผมบอกทุกคนว่าผมมีลูกที่ ติดโรคเอดส์ ทุกคนอ้าปากค้าง เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีลู ก ไม่มีใครมีลูกที่เป็นเอดส์ สังคมยอมรับไม่ได้ ก็นั่นแหละครับเรื่องแบบนี้ต้ องช็อกพวกเขาเป็นธรรม ผมเห็นอาการของพวกเขาจากสีหน้ าที่แสดงออก
ถึงขั้นนี้แล้วหากยังไม่มี ใครยอมออกมาอาสาทำโครงการนี้ ผมคิดว่าผมไปตายดีกว่า แต่ก็ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ พวกเขาตอบรับดีครับ พวกเขาเข้าหาผมพร้อมกับน้ำตา มีบุคคลสำคัญในสโมสรเสนอให้ ความช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงอดี ตนายกในสโมสรหลายท่าน มีอยู่ท่านหนึ่งเป็นคนที่มีทั ศนคติเชิงอนุรักษ์ มากขนาดเคยทำรูปปั้นกษัตริย์อั ตติลา (บางทีเรียกว่าอัตติลาเดอะฮัน ที่เป็นมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรฮันหรือยุโรปโบราณ) ในท่าของเทพีสันติภาพ
เรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือ การบอกเล่าความลับที่เก็บอัดอั้ นมานานของผมกลายเป็นการยกภู เขาออกจากอกในเกือบทันที ผมรู้สึกโปร่งโล่งขึ้นมาก ไม่เคยคิดเลยว่าคนกลุ่มจะต้องจั บกลุ่มกันทำอะไร แต่ไม่เพียงแต่สโมสรโรตารี ลอสแอลทอสจะจัดตั้งเป็ นโครงการเอดส์อย่างเป็นทางการ ผลที่ตามมาคืออาการซึมเศร้ าผมหายไปด้วย ผมใช้เวลากว่า ๖ เดือนในการซ่อนอาการเหล่านี้ เวลา ๖ เดือนที่ต้องแบกความทุกข์ที่ บอกใครไม่ได้นี้เอาไว้ ไม่มีใครควรจะต้องแบกรั บความเจ็บปวดอะไรไว้คนเดี ยวนานขนาดนั้น คนที่ป่วยด้้วยโรคเอดส์เองหรื อคนที่เขารักมากที่สุดก็ไม่ ควรต้องแบกความทุกข์นั้นไว้ สตีฟตายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๒ หกเดือนหลังจากผมเปิดใจเกี่ยวกั บความลับนั้น จากนั้นก็มีเพื่อนร่วมสโมสรที่ มีชื่อเสียงมากยอมลุกขึ้นยื นและประกาศว่าเขาติดเชื้อเอดส์ เช่นกัน ตอนนั้นเหมือนข้ามพ้นข้อสงสั ยเกี่ยวกับจะตั้งโครงการนี้ดี หรือไม่ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้พิสู จน์ให้พวกเราเห็นว่านี่เป็นสิ่ งจำเป็น
หลังจากที่ผมเล่าเรื่องของตั วเอง เพื่อน ๆ หลายคนขึ้นมาที่แท่ นปาฐกและบอกผมว่านี่เป็ นการแสดงความกล้าหาญอย่างที่ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ผมพูดว่า "ใครก็ตามที่มีชีวิตจิตใจ ย่อมทำแบบเดียวกัน" พวกเขาไม่ค่อยอยากเชื่อประโยคนี ้ แต่มันเป็นความจริง - รายงานโดยสตีฟ อัลมอนด์
Dude Angius (middle) whose bravery help safe many AIDS victims |
TELL YOUR CLUB YOUR SECRET
DUSHAN “DUDE” ANGIUS
Rotary Club of Los Altos, Calif.
On Christmas eve of 1988, I picked up my son Steve at the airport. He always kept himself in good shape, but he was so skinny it was really beyond the pale. I didn’t say anything, but Christmas morning I asked him, “Are you right?”
He said, “No, actually, I’m not well at all.” At first, he said he had Kaposi sarcoma, which is manifestation of AIDS. You see, he didn’t want to say the word. Finally he said, “When I was at UCLA I got this virus.”
Now I know it was AIDS.
We were devastated. And in my case, it was followed by months of depression. Oh, my God. I was so tired all the time. I was trying to hide my depression, too, and that was killing me. And as I thought through it, I said, “I’ve got to do something with this.” I decided to tell my Rotary club. I wanted to see if we could get an education and awareness program going.
My kids, were dead set against it. They wanted to protect Steve. His concern was the stigma associated with AIDS. But I kept going back to him. I said, “If we could save a life or two, wouldn’t that make it worth it?” I said, “Anyone who really cares about us will support us.” He finally bought into the idea.
The day I was going to tell the club, it felt a little lonely. I didn’t know what the response would be. But here’s the thing: I didn’t care. I had to tell them about my son.
Because of my background in athletics, I sort of treated it as “game day.” I knew what the game plan was. I didn’t want to go into some big melodramatic scene. I just wanted to tell my story and ask if there would be interest in setting up an AIDS task force.
I got up and spoke, and really I’m kind of amazed that I didn’t choke up when I mentioned Steve’s name. No quivering chin. When I told everyone that I had a son who had AIDS, there was a collective gasp. Guys like me don’t have kids who get AIDS. That was the perception. So, yeah, I guess that shocked them. I could see it in their faces.
If no one had come forward to volunteer for the task force, I think I would have dies. But thank God, people did. They came up to me in tears. We had some very important people step forward, including most of the past presidents of our club. One of them was so ultra-conservative he made Attila the Hun look like a flaming liberal.
And you know the amazing thing? Telling that secret got rid of my depression almost immediately. What a relief it was! I don’t think I ever told that group what they did. Not only did they launch the Los Altos Rotary AIDS Project. They eliminated my depression. I’d gone six months trying to hid those feelings, six months carrying around this secret. No one should have to carry something that heavy alone – not those afflicted by AIDS or their loved ones. Steve died in November 1989.
Six months after I told my story, another member of our club, a very popular member, stood up at a meeting and announced that he had AIDS. That really won over a lot of the doubting Thomases.
After I told my story, a lot of people came up to the podium and told me what a gutty call it had been. I said, “Anybody with a soul would have done the same thing.” They didn’t believe me. But it’s true. – As told to Steve Almond
Learn more about the Los Altos Rotary AIDS Project at www.rotaryaidsproject.org
The Rotarian Action Group for Family Health & AIDS Prevention is also working on this issue. Find out more at www.rffa.org
No comments:
Post a Comment