Wednesday, June 18, 2014

The New President

เยี่ยมบ้านประธานโรตารีสากล
Gary CK Huang, 2014-15 RI President


แกรี่ ซีเค ฮวง ประธานโรตารีสากลคนใหม่
แกรี่ ฮวง เล่นกีฬาหลายประเภทแต่ที่ชอบที่สุดคือบาสเก็ตบอล เขาเป็นกัปตันทีมและเล่นตำแหน่งพอยท์การ์ด (นักส่งลูก) ในทีมโรงเรียนมัธยม "เพราะผมตัวไม่ค่อยสูงนัก แต่เล่นไว" เขาฉายภาพความทรงจำให้ฟัง "ผมรู้ดีว่าจะพาลูกไปอย่างไรเพื่อให้ทีมของเราขนะ".
นั่นเกิดขึ้นหลายสิบปีมาแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเกมบาสเก็ตบอล หรือธุรกิจ หรือโรตารี การเคลื่อนลูกบอลจะต้องเป็นไปในเกมที่ฮวงวางเอาไว้  เขานิยมการปฏิบัติและการเดินไปข้างหน้า  เขาเป็นคนประเภทกระหายสิ่งท้าทาย อย่างเมื่อตอนที่สโมสรโรตารีไทเปบอกเขาว่าเขาเด็กเกินไปที่จะเป็นสมาชิกสโมสรฯ เขาก็ยังดื้อ ตั้งหน้าตั้งตาไปร่วมประชุมกับสโมสรอยู่ได้ถึง 9 เดือน จนเขาได้รับเชิญจริง ๆ ในตอนอายุได้ 30 ปี ซึ่งเขาก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวแค่นั้น เพราะหลังจากนั้นอีกห้าปี ฮวงได้เป็นนายกสโมสร และเป็นผู้ว่าการภาคที่อายุน้อยที่สุดในไต้หวันในเวลาต่อมา  และได้เป็นกรรมการอำนวยการโรตารีสากลและกรรมการทรัสตีมูลนิธิโรตารีคนแรกของไต้หวัน และในเดือนนี้เขาได้เป็นประธานโรตารีสากลคนจีนคนแรก
ฮวงเกิดที่มณฑลฟู่เจียน ภาคใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน  เขาเป็นลูกคนที่สามจากทั้งหมดเจ็ดคน เช่นเดียวกับคนจีนอีกเป็นจำนวนมากในขณะนั้นที่ไม่พอใจการครอบครองประเทศของคอมมูนิสต์ ครอบครัวฮวงจึงย้ายมาอยู่ในไต้หวันในปี พ.ศ.2490 เมื่อตอนที่แกรี่อายุได้ 1 ขวบ.
พ่อแม่ของฮวงเคี่ยวเข็นให้เขาเรียนหนังสืออย่างหนัก แต่ก็ไม่ละเลยที่จะสอนให้เขาเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ นอกโรงเรียนด้วย  "พ่อเคยพูดไว้ว่า เรียนให้ได้ปริญญาก็ดีอยู่ แต่ก็ต้องร่วมทำกิจกรรมและเข้าสมาคมด้วย เพราะมันจะช่วยผมได้มากในอนาคต" ฮวงกล่าว 
แม้คุณพ่อของฮวงจะไม่ใช่โรแทเรียน แต่ก็ยังปลูกฝังทัศคติแบบโรตารีให้กับลูกๆ  คุณพ่อมักพูดว่า การช่วยเหลือผู้อื่นคือการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำ ผลก็คือ ฮวงได้เป็นประธานนักเรียนตอนเรียนในระดับมัธยมศึกษา นอกจากเล่นบาสเก็ตบอลแล้ว เขายังเล่นฟุตบอล วิ่งแข่ง และด้วยกำลังจากแม่ เขาเข้าร่วมแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ และยังเป็นหัวหน้ากล่าวปลุกใจในโรงเรียนทุกเช้าเป็นเวลานานตลอดหกปี "พ่อมีความสุขกับผลงานที่ผมทำ" ฮวงกล่าว "ทุกครั้งที่มีกิจกรรมโรงเรียนที่เป็นพิธีการ ไม่ว่าเขาจะไม่ว่างขนาดไหน ก็จะต้องไปร่วมงานจนได้".
หลังจากจบมัธยมศึกษาเขาเข้ารับราชการทหารสองปี ก่อนที่จะเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอิสเทิร์นมิชิแกนในเมืองยิปสิแลนติ เขาจำช่วงเวลาดี ๆ ที่นั่นได้ดีเพราะเป็นห้วงเวลาที่บริสุทธิ์และเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับโลกตะวันตกกลางให้กับเด็กเมืองที่มาจากไต้หวัน  เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวอเมริกันผู้ตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้เขาว่า "แกรี่" เพราะครอบครัวนี้ชอบนักแสดงที่ชื่อ แกรี่ คูเปอร์  แกรี่ ฮวงใช้เวลาว่างทำงานหลังเลิกเรียนที่สถานีบริการน้ำมัน เขาเริ่มจากรายได้ชั่วโมงละ 1.25 เหรียญ และหลังจากนั้นสองสามปี ค่าจ้างก็ขยับขึ้นไปจนถึง 4.75 เหรียญต่อชั่วโมง ตอนที่เรียนจบบริหารธุรกิจในปี พ.ศ. 2514 เขาซื้อแหวนบัณฑิตให้กับตัวเอง "มันเป็นของชิ้นแรกที่แพงที่สุดที่ผมซื้อด้วยเงินที่ตัวเองหามาได้ เพราะฉะนั้นผมจะสวมแหวนนี้อยู่ตลอดเวลา" เขากล่าว
กระนั้นยังไม่นับเป็นการสำเร็จการศึกษาของฮวง เพราะบิดาของเขาได้รับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทประกันภัยในไต้หวันและต้องการให้ลูกชายเตรียมตัวสำหรับการถ่ายโอนธุรกิจทางด้านนี้  ฮวงจึงต้องเข้าเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และใช้เวลาเพิ่มเติมในประเทศอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมันนี และญี่ปุ่นเพื่อเก็บความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจประกันภัยและเพื่อสร้างเครือข่ายในต่างประเทศ  หลายปีต่อมา ฮวงยังคงสร้างเครือข่ายไปทั่วโลกในฐานะประธานโรตารีสากล
เมื่อกลับประเทศไต้หวัน ฮวงเข้าทำงานกับบริษัทประภันภัยเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งเขาสามารถสร้างบริษัทนี้ให้เป็นบริษัทประกันภัยชั้นแนวหน้าของประเทศได้ในระยะเวลา 15 ปี  เขาทำข้อตกลงกับประธานบริษัทไว้ว่า ขอให้เขามีเวลาสำหรับการร่วมงานกับโรตารี "ผมต้องการทำงานให้โรตารีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" เขากล่าว
เมื่อฮวงเริ่มประสบความสำเร็จในอาขีพการงานและในโรตารี แม่ของเขาจะคอยดึงเขาไม่ให้ลอยตัวสูงเกินไป  ถึงตอนนี้เธอก็ยังทำอย่างนั้นแม้จะอายุ 95  ปีแล้วก็ตาม  "ผมรู้ว่าแม่ภาคภูมิใจในตัวผม" เขากล่าว "แต่ไม่ว่าผมจะประสบความสำเร็จขนาดไหน เธอก็จะไม่พูดยกยอผม"
ปีที่เขาเข้าเป็นสมาชิกโรตารีก็เป็นปีเดียวกันกับที่เขาพบ คอรีนนา เหยา ภรรยาของเขา ที่ห้องสมุดในโบสถ์ "เขาขยันโทรหาฉันตลอด" เหยากล่าว แต่ฮวงจำได้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น "ความจริง เธอคือคนที่จีบผมต่างหาก" ฮวงแย้ง
เขาชอบแสดงออกและชอบเข้าสังคม ส่วนเธอออกจะเก็บตัว "ดิฉันสงสัยว่าเราจะเข้ากันได้ยังไง" คอรีนนากล่าว "แต่ผ่านมา 38 ปีแล้ว เราก็ยังอยู่กันได้ดี" คู่สามีภรรยานี้ได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูลูกสามคน บุตรีสองและบุตรชายหนึ่งคน และตอนนี้มีหลานสองคนแล้วด้วยชื่อ เอ็ดดี้ และอีแวน  คนหลังนี้เกิดในวันที่ฮวงได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานโรตารีสากล ฮวงจึงตั้งชื่อล้อตามโอกาสที่เขาจะได้ไปทำงานที่ "อีแวนสตัน"  
ฮวงและเหยาช่วยกันเลี้ยงลูกให้เติบโตพร้อม ๆ กับโรตารี ดังนั้นความทรงจำของเด็ก ๆ จึงมีโรตารีอยู่ด้วยเสมอ  "หนูต้องการทำสิ่งที่คุณพ่อทำกับเพื่อน ๆ ในโรตารี เติบโตขึ้นมาท่ามกลางป้า ๆ ลุง ๆ ในโรตารี" ลินดา ลูกสาวคนโตกล่าวกับพ่อของเธอ  แนนซี่ ลูกสาวคนที่สองจำได้ว่าเคยไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับคุณพ่อตอนเธอยังเล็ก ๆ "เป็นครั้งแรกที่หนูได้เรียนรู้ว่าโรตารีทำอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อรักมาก" ลินดากล่าว
โครงการช่วยเหลือเด็กกำพร้าเป็นโครงการแรกที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ฮวงเมื่อ 30 มาแล้ว ตอนนั้นเขาเข้าเยี่ยมที่ศูนย์และต้องชงักเมื่อเห็นเด็กถูกยัดเยียดอยู่ในห้องเดียวกันตอนกลางคืน เด็ก ๆ หลายคนทานข้าวจากชามเดียวกัน เด็กหลายคนอายุพอ ๆ กับลูก ๆ ของเขา ที่ศูนย์แห่งนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างต้องปรับปรุง เช่นหลังคา ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ผ้าอ้อมและของใช้สิ้นเปลืองต่าง ๆ สโมสรไทเปสามารถจัดหาสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการเหล่านี้ แต่ฮวงก็อยากให้มากกว่านั้น เขากับเพื่อนโรแทเรียนอีกคนหนึ่งเสนอให้การอุปการะแก่เด็กหญิงสองคน โดยเลือกเด็กที่มีอายุ 4 ขวบทั้งสองคนซึ่งมีปีเกิดนักษัตรปีเดียวกับเขาและเพื่อนคนนั้น นั่นคือปีระกา  พวกเขาจะพาหนูน้อยสองคนนี้ไปทานอาหารเย็นด้วยกันเดือนละครั้ง  และจ่ายค่าใช้จ่ายในการเรียนจนถึงระดับวิทยาลัย  หลังจบการศึกษาพวกเขายังช่วยออกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดี ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวฮ่องกง และหางานให้แก่เด็กทั้งสองทำเมื่อเดินทางกลับบ้านแล้ว สามสิบปีต่อมาพวกเขายังได้พบปะทานอาหารเย็นประจำเดือนกัน พร้อม ๆ กับครอบครัวของหญิงสาวทั้งสอง
ฮวงเชื่อว่าโรตารีน่าจะช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนได้ คำขวัญที่เขาเลือกที่ว่า "รวมใจจุดประกายโรตารี" สะท้อนให้เห็นแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำพาโรแทเรียนทั้งหลายช่วยจุดแสงว่างให้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ยังมืดมิดอยู่  ฮวงยังหวังด้วยว่าการรวมใจจุดประกายโรตารีจะเป็นแรงบันดาลใจให้โรแทเรียนช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กรนี้  เขาต้องการให้โรตารีเป็นที่ให้ความสุขและสนุก ไม่ใช่แค่สนุกแต่เป็นความสนุกที่สร้างความผูกพันธ์ฉันมิตร อยากอยู่ร่วมกันและอยากให้เพื่อนอื่น ๆ มาเข้าร่วมสโมสรด้วย
การหาสมาชิกเพิ่มเป็นทักษะพิเศษของฮวง ตอนที่เขาเป็นนายกสโมสร สมาชิกเพิ่มจาก 102 เป็น 138 คน ตอนเป็นผู้ว่าการภาคเขาเพิ่มสโมสรให้กับภาคที่ดูแลถึง 19 แห่ง  "ถ้าคุณจะเชิญใครมาเป็นสมาชิก คุณต้องสร้างความสนใจให้เกับเขา" เขาให้เหตุผล "เมื่อเขาชอบ เขาจะกลับมาอีก" 
เซเลีย เอเลนา ครูซ เดอ กีอาย กรรมการอำนวยการโรตารีสากลและเพื่อนของฮวง สนับสนุนวิธีนี้ "โรตารีเป็นองค์กรที่ทำงานกันจริงจังแต่ไม่ใช่แบบเป็นทางการ ประธานแกรี่เน้นทำโรตารีให้สนุกเวลาที่พวกเราทำงานบำเพ็ญประโยชน์" เธออธิบาย
The Huang Family

ฮวงยังให้การสนับสนุนเต็มที่กับแนวคิดการเพิ่มสมาชิกหนุ่มสาวและสมาชิกสตรี "โรแทเรียนบางคนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการการเพิ่มสมาชิกเพศหญิงหรือสมาชิกที่อายุน้อย" เขากล่าว "แต่ถ้าเราได้สมาชิกหนุ่มสาว พวกเขาจะเป็นอนาคตของเรา ในไม่กี่ปีพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ยิ่งขึ้นและเป็นคนดียิ่งขึ้น และอาจรวยกว่าพวกเราด้วย" ฮวงกล่าวติดตลก "มันดีสำหรับพวกเขา ดีสำหรับโรตารี และดีสำหรับสังคมของเรา"
แม้จะเป็นการกล่าวให้ตลก แต่ฮวงก็จริงจังกับการหาเพิ่มสมาชิกให้กับสโมสรอย่างยิ่ง โดยเขาได้ชวนสมาชิกในครอบครัวมาเป็นสมาชิกสโมสรด้วย ภรรยาได้รับเชิญเป็นคนแรก จากนั้นก็ตามด้วยลูกทั้งสามคน แต่ละคนก็อยู่กันคนละสโมสร  บิลลี่ ลูกชายของเขาเชื่อว่าการที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกทำให้ครอบครัวของเราใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น "เราร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน" เขากล่าว "และผมก็เข้าใจคุณพ่อได้ดีขึ้นด้วย"
ฮวงตื่นเต้นทุกครั้งที่ผู้เกี่ยวข้องในชีวิตของเขาได้เข้าร่วมกันทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ นี่เป็นการให้ความหมายใหม่กับคำว่าครอบครัวโรตารี  เขาหวังว่าโรแทเรียนอื่น ๆ จะทำตามอย่างที่เขาทำ "ทำไมเราจะต้องทิ้งครอบครัวไว้ที่บ้าน เพื่อตัวเองจะได้ไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์  ในเมื่อคุณทำด้วยกันก็ได้" เขาแนะนำ "ทำอย่างนี้แล้ว การทำความดีก็จะกลายเป็นงานของครอบครัวไปด้วย"
ทุกวันนี้ ฮวงเล่นกอล์ฟแทนบาสเก็ตบอล แต่เขาก็ยังคงเป็นคนคุมเกมที่เล่นในทีม รวมทั้งทีมโรตารี ที่จะต้องชนะเท่านั้น.

โดย ซูซี่ หม่า

No comments: